|
อาหารแมวยี่ห้อ Royal canin |
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงแมวถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อก็ตาม แต่แมวก็แตกต่างไปจากสัตว์กินเนื้อประเภทอื่นๆเรื่องความต้องการอาหารที่มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอแมวแต่ละช่วงอายุมีความต้องการอาหารแตกต่างกันไปตั้งแต่ลูกแมว,แมวโต,แมวพ่อแม่พันธุ์,แมวท้อง,แมวเลี้ยงลูก จนกระทั่งเป็นแมวแก่ถ้าแมวได้รับอาหารที่ดีและเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงอายุแล้ว
ก็จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถอยู่กับเจ้าของได้นานๆการที่แมวท้องใหญ่
เจ้าของแมวอาจคิดว่าเกิดจากการบำรุงเลี้ยงดูจนมีสุขภาพดีแต่แท้จริงแล้วแมวอาจเป็นโรคพยาธิก็ได้โดยเฉพาะลูกแมวการที่แมวกินข้าวคลุกปลาได้ทุกวันไม่ใช่เพราะว่าแมวชอบแต่เพราะมันหิว
หรือแมวที่จับหนกินไม่ใช่เพราะว่ามันชอบกินหนูหรือกินหนูแล้วจะแข็งแรงแต่เพราะว่ามันหิวเต็มที่แล้ว ถ้าแมวไม่หิว
เมื่อมันจับหนูมามันจะไม่กิน แต่มันจะใช้เป็นของเล่นจนกว่าหนูจะตาย
ดังนั้นการให้อาหารแมวจึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับความต้องการของแมวด้วย
ไม่ควรให้มากหรือน้อยเกินไป
อาหารแมว
ผู้เลี้ยงแมวส่วนมากนิยมให้แมวกินข้าวคลุกปลา
แต่ถ้าจะเลี้ยงให้มีสุขภาพสมบูรณ์ก็ควรจะ
เสริมอาหารอื่นๆ เพิ่มอีกด้วย เช่น เนื้อวัว
เนื้อหมู เครื่องในสัตว์ นม ไข่และอื่นๆ
- เนื้อวัว เนื้อหมู ตับ ไต หัวใจ
ควรทำให้สุกก่อนเพื่อป้องกันพยาธิ
- ไข่ ผสมกับข้าวให้กินทุกวันได้ยิ่งดี (ถ้าไม่ได้
ให้ผสมกับข้าวอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง )
- ปลา ต้องทำให้สุกและต้องเอาก้างออกให้หมด
- อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู
ก็เป็นอาหารที่แมวชอบแต่ต้องระวังอย่าให้ส่วนที่แข็งปะปนไปด้วย
- เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ให้กินเป็นครั้งคราว
- น้ำสะอาด ควรมีไว้ให้แมวกินได้ตลอดวัน
- น้ำต้มเนื้อ เป็นอาหารที่แมวกินได้ทุกวัน
- นม เป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับลูกแมวและแมวทุกวัย
หลักการให้อาหารแมว
1.
อาหารแต่ละมื้อ ควรประกอบไปด้วยสารอาหารประเภทต่างๆ ครบถ้วนตามความต้องการของ
แมวในแต่ละช่วงอายุและแต่ละพันธุ์ดังนี้
ก. เนื้อให้โปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ
ข. ไขมัน ให้พลังงาน ความร้อน และวิตามินเอและดี
ค.
ข้าวและเมล็ดธัญพืชทุกชนิด ให้พลังงานและวิตามินบี และอี
ง.
ผักใบเขียวดิบๆ หรือต้มไฟอ่อนๆ ให้เกลือแร่วิตามินซี และวิตามินอื่นๆ
จ. ไข่ ตับ ให้ไขมัน ธาตุเหล็ก
ฟอสฟอรัสและวิตามินประเภทต่างๆ เช่นวิตามินเอ วิตามินดีวิตามินบี เป็นต้น
2.
ให้กินเป็นเวลาควรเริ่มต้นฝึกให้แมวกินเป็นเวลาตั้งแต่อายุ 3เดือน
เพื่อแมวจะได้ไม่ร้องหิวให้ รำคาญ ไม่รบกวนอยู่รอบๆ เพื่อขออาหารกินและไม่บุกเข้าไปกินอาหารต่างๆในครัว
เช่น แมวโตให้อาหารวันละ 2 มื้อ คือมื้อเช้ากับมื้อเย็น และให้ตรงเวลาทุกวัน
ส่วนลูกแมวให้บ่อยขึ้นอาจให้วันละ 3-4 ครั้ง
3. ปริมาณอาหารที่ให้
ควรให้ครั้งละน้อยๆ แต่เพียงพอ ไม่ควรให้กินมากเกินไปเพราะจะทำให้ระบบ
การย่อยอาหารต้องทำงานหนัก
อาหารย่อยไม่หมด การใช้ประโยชน์จากอาหารลดลง ถ้าเห็นแมวกิน
อาหารแบบเล็มๆหมายความว่าควรลดจำนวนอาหารลงถ้าแมวได้รับปริมาณอาหารเกินความต้องการ
จะทำให้เกิดโรคอ้วน แมวจะอายุสั้น
จึงควรจำกัดปริมาณอาหารให้สมดุลกับความต้องการ ไม่มาก